ธุรกิจSMEs มีธุรกิจอะไรบ้าง ในยุคปัจจุบัน

ธุรกิจSMEsมีธุรกิจอะไรบ้าง

       ในยุคปัจจุบัน คำว่า SMEs (Small and Medium Enterprises) หรือ ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยมาก ทั้งในข่าวเศรษฐกิจ บทความธุรกิจ หรือแม้แต่การพูดคุยกันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ในซอย หรือโรงงานผลิตขนมที่มีคนงานเพียงสิบกว่าคน ต่างก็ถือว่าอยู่ในกลุ่ม SMEs ทั้งสิ้น

        แต่หลายคนอาจยังไม่ค่อยชัดว่า ธุรกิจSMEs มีประเภทอะไรบ้าง และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างไร รวมถึงถ้าทำธุรกิจแล้วขาดเงินทุนหมุนเวียน ควรจะหาแหล่งสินเชื่อจากที่ไหนได้บ้าง บทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจแบบละเอียด แต่ยังคงภาษาที่อ่านง่ายและเป็นกันเอง

   ธุรกิจSMEs คืออะไร
        SMEs เป็นคำย่อของ Small and Medium Enterprises หมายถึง ธุรกิจที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีจำนวนพนักงานและรายได้ต่อปีไม่มากเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate) แต่ก็เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญอย่างมหาศาล

   ในประเทศไทย การจำแนกธุรกิจว่าเป็น SMEs มักพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
   จำนวนพนักงาน
   รายได้ต่อปี

  ตัวอย่างเช่น

   ธุรกิจการค้าและบริการ ที่มีพนักงานไม่เกิน 50 คน และรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านบาท
   ธุรกิจการผลิต ที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คน และรายได้ต่อปีไม่เกิน 200 ล้านบาท

        นี่เป็นเพียงเกณฑ์ทั่วไป แต่ในภาพรวม ธุรกิจSMEs หมายถึงธุรกิจที่ไม่ใหญ่โตมาก แต่มีความยืดหยุ่นสูงและใกล้ชิดกับลูกค้า

   ทำไม SMEs ถึงสำคัญ

        หลายคนอาจไม่รู้ว่า SMEs คือ หัวใจของเศรษฐกิจไทย เพราะมีอยู่ทั่วประเทศ และช่วยสร้างงานให้กับผู้คนจำนวนมาก ข้อดีของ SMEs ได้แก่:

    สร้างงานในท้องถิ่น
        SMEs ส่วนใหญ่อยู่ใกล้ชุมชน จึงจ้างคนในพื้นที่ ลดการย้ายถิ่นฐาน
    มีความยืดหยุ่นสูง
        ปรับเปลี่ยนสินค้า บริการ หรือกลยุทธ์การขายได้รวดเร็ว
    สร้างความหลากหลายให้ตลาด
        สินค้าและบริการจาก SMEs มักมีความเฉพาะตัว แตกต่างจากสินค้าของบริษัทใหญ่

   ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด โอกาสที่คุณจะเกี่ยวข้องกับ SMEs มีสูงมาก

   ธุรกิจSMEs มีกี่ประเภท
        ธุรกิจ SMEs สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยจะขอเล่าให้เห็นภาพชัด ๆ พร้อมตัวอย่าง

   1. ธุรกิจค้าปลีก–ค้าส่ง
        เป็นธุรกิจที่เน้นซื้อสินค้ามาจำหน่ายต่อ อาจขายตรงให้ลูกค้าปลายทาง (ค้าปลีก) หรือขายให้ร้านอื่นไปขายต่อ (ค้าส่ง)

   ตัวอย่างธุรกิจค้าปลีก
  ร้านขายของชำ
  ร้านมินิมาร์ท
  ร้านขายเสื้อผ้า
  ร้านขายอุปกรณ์เครื่องใช้

  ตัวอย่างธุรกิจค้าส่ง

  ร้านขายส่งผักผลไม้ให้ตลาด
  ร้านขายส่งเสื้อผ้าตามตลาดนัด
  ร้านขายส่งอุปกรณ์ก่อสร้าง
        ธุรกิจกลุ่มนี้เริ่มได้ไม่ยาก แต่ต้องบริหารสต๊อกสินค้าและรักษาลูกค้าให้ได้

   2. ธุรกิจบริการ
        ขาย "บริการ" แทนการขายสินค้า เช่น ให้ความสะดวกสบาย ความสวยงาม หรือแก้ปัญหาให้ลูกค้า

   ตัวอย่างธุรกิจบริการ

  ร้านทำผม/ทำเล็บ
  ร้านซ่อมมือถือ
  ร้านซักอบรีด
  ร้านอาหารและคาเฟ่
  บริการรับจัดงานเล็ก ๆ
        ธุรกิจบริการมักลงทุนไม่มาก แต่ต้องใช้ฝีมือ ความเชี่ยวชาญ และบริการที่จริงใจเพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

   3. ธุรกิจการผลิต 

        ผลิตสินค้าขึ้นมาเองเพื่อจำหน่าย อาจเป็นสินค้าพร้อมขาย หรือสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบต่อไป

   ตัวอย่างธุรกิจการผลิต

  โรงงานผลิตขนมปังและเบเกอรี่
  โรงงานผลิตเสื้อผ้า
  ผลิตเครื่องประดับแฮนด์เมด
  โรงงานเฟอร์นิเจอร์
        ธุรกิจนี้ต้องใช้เงินลงทุนมากกว่าประเภทอื่น เพราะต้องซื้อเครื่องจักร วัตถุดิบ และดูแลคุณภาพการผลิต

   4. ธุรกิจเกษตรและแปรรูป
        เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ หรือแปรรูปผลผลิตจากเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่ม

   ตัวอย่างธุรกิจเกษตร

  ฟาร์มผักปลอดสาร
  ฟาร์มเลี้ยงไก่และขายไข่
  สวนผลไม้ส่งขายตลาด

  ตัวอย่างธุรกิจแปรรูป

  โรงงานทำน้ำผลไม้
  แปรรูปผลไม้แห้ง
  ผลิตกาแฟดริปจากไร่ตัวเอง
        ธุรกิจนี้เหมาะกับคนที่มีพื้นที่และอยากต่อยอดสินค้าให้มีคุณภาพและราคาเพิ่มขึ้น

   ความท้าทายของ ธุรกิจSMEs

        แม้ SMEs จะเริ่มได้ง่าย แต่ก็มีความท้าทายหลายด้าน เช่น

   1. เงินทุนหมุนเวียนไม่พอ
        หลายธุรกิจมีกำไรดี แต่เงินสดไม่พอจ่ายค่าเช่า ค่าวัตถุดิบ หรือค่าจ้างพนักงาน

   2. การตลาดและการหาลูกค้าใหม่
        คู่แข่งเยอะ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำการตลาด

   3. การบริหารต้นทุน
        ถ้าต้นทุนสูงเกินไป กำไรก็ลดลง

   4. การขยายธุรกิจ
        เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต อาจต้องขยายสาขาหรือเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก

   เมื่อ ขาดเงินทุนSMEs ควรทำอย่างไร?
        เจ้าของกิจการ SMEs หลายคนอาจประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียนไม่พอ เช่น ต้องซื้อวัตถุดิบเพิ่ม รับออเดอร์ใหญ่ หรือซ่อมแซมอุปกรณ์ที่จำเป็น การหาสินเชื่อธุรกิจจึงเป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจเดินต่อได้

        ในตลาดปัจจุบัน มีสถาบันการเงิน และ บริษัทสินเชื่อ หลายแห่งให้บริการ แต่การเลือกผู้ให้สินเชื่อที่ เข้าใจธุรกิจ SMEs จริง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเงื่อนไขและขั้นตอนต้องเหมาะสมกับผู้ประกอบการรายย่อย

   บริษัท สมาทเครดิต – ตัวช่วยด้านเงินทุนสำหรับ SMEs
        หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ บริษัท สมาทเครดิต ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อธุรกิจที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบการSMEs โดยเฉพาะ จุดเด่นของสมาทเครดิต ได้แก่:

    ขั้นตอนไม่ซับซ้อน – เอกสารน้อย เข้าใจง่าย
    อนุมัติรวดเร็ว – ไม่ต้องรอนาน
    เหมาะกับทุกประเภทธุรกิจ SMEs – ทั้งค้าขาย บริการ ผลิต หรือเกษตร
    วงเงินยืดหยุ่น – ปรับตามความต้องการของลูกค้า

        ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำร้านกาแฟเล็ก ๆ และต้องการซื้อเครื่องชงกาแฟใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น การใช้สินเชื่อจากสมาทเครดิตก็ช่วยให้คุณลงทุนได้ทันที โดยไม่ต้องรอเก็บเงินก้อนนาน ๆ

   เคล็ดลับทำให้ SMEs อยู่รอดและเติบโต

        นอกจากเรื่องเงินทุนแล้ว SMEs ยังต้องใส่ใจเรื่องอื่น ๆ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดในระยะยาว

  รู้จักลูกค้าให้ดี
  ศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
  ควบคุมต้นทุน
  รู้ต้นทุนจริงของสินค้าและบริการทุกชิ้น
  สร้างความแตกต่าง
  มีจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าจำได้และเลือกเรา
  ใช้เทคโนโลยีช่วย
  เช่น ระบบจัดการสต๊อก โปรแกรมบัญชี หรือการตลาดออนไลน์
  บริหารเงินทุนอย่างชาญฉลาด
  ใช้สินเชื่อเมื่อจำเป็นและมั่นใจว่าสามารถชำระคืนได้

  บทสรุป
        ธุรกิจSMEs มีหลายประเภท ทั้งค้าปลีก–ค้าส่ง บริการ การผลิต และเกษตรแปรรูป จุดแข็งคือความยืดหยุ่นและใกล้ชิดกับลูกค้า แต่ก็มีความท้าทายโดยเฉพาะเรื่องเงินทุนหมุนเวียน

        ถ้าธุรกิจของคุณกำลังขยายตัวแต่ติดปัญหาเรื่องเงินทุน การมองหาสินเชื่อจากผู้ให้บริการที่เข้าใจ SMEs จริง ๆ อย่าง บริษัท สมาทเครดิต อาจเป็นคำตอบที่ช่วยให้คุณเดินหน้าธุรกิจได้อย่างมั่นใจ